ตั้งเป้าที่จะล้มเหลว

--

ถ้ามีใครสักคนที่อยู่ในจุดที่จะสามารถเห็น การเกิดดับของโครงการต่างๆได้กว้างๆ เราอาจจะเห็นว่ามีโครงการเกิดขึ้นในองค์กรเรามากมาย แต่ที่เห็นสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน หรือสำเร็จตามความตั้งใจจริงๆนั้น น้อยมากๆ

ผมสังเกตเห็นว่า หลายๆโครงการตั้งใจมุ่งมั่นที่อยากจะแก้ปัญหาบางอย่าง รวมคนระดับ top มาไว้ในโครงการ เปิดตัวยิ่งใหญ่ แต่สักพักก็แผ่วไปแล้วก็ค่อยๆเฟดตัวเองหายไปเนียนๆ

หนึ่งในปัจจัยที่อาจจะทำให้เกิดเรื่องแบบนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ เขาวางแผนที่จะให้มันล้มเหลวตั้งแต่วันแรก

https://www.pexels.com/photo/computer-tied-with-a-black-and-yellow-tape-9830816/

หลายคนอาจจะสงสัยว่ามีด้วยเหรอ โครงการบ้าอะไรวางแผนให้ล้มเหลวตั้งแต่แรก ผมก็ต้องตอบจากประสบการณ์ที่เคยเห็นครับว่า มี

บางครั้งคนที่ริเริ่มโครงการ อาจจะเห็นภาพรวมทั้งหมด แล้วรู้ว่าตัวเองจะแก้ปัญหาอะไร และพอเริ่มระดมความคิดจากหลายๆส่วน เขาจะเห็นแนวความคิดบางอย่าง ที่มีใครบางคนเสนอขึ้นมา แล้วมันเปล่งประกายเอามากๆ ดูเป็นความหวัง

สมมุติว่าคุณสมหวัง เป็นคนเสนอแนวคิดนี้ขึ้นมา แต่คุณสมหวังเองก็ยังไม่ค่อยมั่นใจในวิธีดังกล่าว คุณสมหวังเลยเสนอว่า ควรจะเริ่มกระบวนการนี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อสร้าง trust และเป็นการค้นหาความเหมาะสมไปในระหว่างทำโครงการเล็กๆดูก่อน เพราะในการทำโครงการที่เล็ก มันสร้างสิ่งแวดล้อมง่ายกว่า สร้างผลกระทบในวงกว้างน้อยกว่า แต่มันสามารถพิสูจน์ทฤษฎีได้ ว่าสิ่งที่คิดนั้นจะสำเร็จได้หรือไม่ และอาจจะสร้างโอกาสให้เห็นความสำเร็จง่ายกว่า

แต่พอเสนอไปแล้ว คุณหัวหน้าผู้ริเริ่มโครงการ แย้งว่า ควรทำให้ใหญ่ไปเลย เพราะเหตุผล 1,2,3,… และถึงแม้คุณสมหวังจะพยายามอธิบายอย่างไร ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดหัวหน้าได้ คุณสมหวังจึงบอกตามตรงว่า เขายินดีจะทดลองในโครงการใหญ่เลย แต่ความมั่นใจว่าจะสำเร็จนั้นเลือนลางมากในความคิดเขา ผมเชื่อว่าคุณหัวหน้ารู้สึกได้ลางๆว่า ถ้าตีค่าความสำเร็จออกมาเป็นตัวเลข มันจะเป็นตัวเลขที่ต่ำมากๆ แต่เนื่องจากมันคุ้มจะเสี่ยง เพราะถ้าสำเร็จ ทุกอย่างจะดีขึ้นแบบพลิกผ่ามือ ถ้าไม่ได้มันก็แค่อีก 1 โครงการที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป

สุดท้าย เราก็จะได้โครงการที่แค่เริ่มต้นก็ตั้งเป้าให้ล้มเหลวตั้งแต่วันแรกไปแล้วอีก 1 โครงการ และเราจะได้หายสงสัยกันเสียทีว่า ที่ผ่านมาทำไมมันยังไม่ไปไหนมาไหน เราเปลี่ยนแปลงอะไรได้ยาก อาจจะเพราะเราเคยชิน หรือด้วยความใจร้อน หรือด้วยเงื่อนไขอื่นๆ

หากเรารู้แบบนี้แล้ว หวังว่าโครงการต่อๆไป เราควรจะประเมิณความเป็นไปได้นี้ก่อน และพยายามหาแนวทางที่จะทำให้มันสำเร็จดูก่อน อย่างน้อย ผลกระทบมันจะเกิดน้อย และในระหว่างทาง เราจะสามารถพิสูจน์ความคิดเราได้ไปเรื่อยๆ ถ้ามันใช่ เราจะได้หาแนวทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับองค์กรเราได้ หรือถ้ามันไม่ใช่ เราจะได้ทิ้งมันไปได้อย่างไม่น่าเสียดาย ไม่เสียหน้า ไม่สร้างความเคยชินผิดๆที่ว่า โครงการล้มได้ ไม่เป็นไร ให้มันล้มบนกระดาษยังดีเสียกว่าล้มจริงเสียอีก

--

--