ง่ายคือสะดวก และส่งเสริมให้เข้าร่วม

Pallat Anchaleechamaikorn
2 min readOct 3, 2024

--

เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่ยังเป็นเด็กน้อยนั่งทำงานเป็น programmer ที่คนยังมองว่าเป็นชนชั้นล่างสุดขององค์กรอยู่ 😅 ตอนนั้นผมมีความเครียดสูงมาก ซึ่งสาเหตุมาจาก เครื่องโน๊ตบุ๊คที่ทางบริษัทจัดหามาให้ทำงาน เป็นเครื่องที่มีสเป็คเดียวกันกับคนที่ทำงานเอกสารทั่วไป เป็นเครื่อง windows ของ HP แรมต่ำสุดในสมัยนั้นก็ 8G แล้วแหล่ะ แต่ก็เท่ากันกับคนทำงานเอกสาร

ส่วนเรานั้นจะต้อง dev ทุกอย่าง แล้วในยุคนั้น อะไรอะไรก็ค่อนข้างยุ่งยากยกตัวอย่างเช่น ผมต้องทำระบบ Siebel ซึ่งก่อนอื่นเลย เครื่องผมจะต้องลง Oracle Database ก่อน แล้วต่อด้วยการลง Siebel App ซึ่งเขียนด้วย Java แล้วตอนที่ Dev ก็จะต้องรันทุกสิ่ง ซึ่งในเครื่องเรา ซึ่งก็คงไม่ได้มีแค่นี้ เรายังมี IDE อื่นๆ เช่น .NET และครอบครัว ซึ่งผมก็ต้องลง MSSQL ด้วย และบางทีก็ต้องเขียน Java ก็ต้องลงอะไรอีกเยอะ

ความเครียดอีกเรื่องคือ ทางบริษัทก็ใช้นโยบาย Security แบบปิดก่อนขอทีหลัง ก็เหมือนกันทุกที่แหล่ะ เพียงแค่ว่า โดยปกติทุกอย่างที่จะต้องลงไปเพื่อ Dev มันจะขอสิทธิ์โน่นนี่แยะแยะไปหมด แล้วบางที dev ไปพอติดปัญหาเราก็อาจจะต้องลง Tools อื่นๆเพิ่มเติม

ซึ่งโดยปกติเราจะไม่มีสิทธิ์ลง App อะไรเองทั้งนั้น และทุกครั้งที่ขออะไรแบบนี้ ก็จะต้องผ่านการอนุมัติจากหัวหน้าก่อน เราก็จะต้องโดนหัวหน้าสอบสวนรอบหนึ่ง พอไปหน้างานเจอ Service Desk ก็โดนสอบสวนหนักกว่าเดิมไปอีกขั้น

สุดท้ายท่าแก้ที่ได้ผลดีมากก็คือ เราก็ต้องขอให้มีสิทธิ์ Admin ของเครื่องไปซะเลย ซึ่ง ก็ได้อยู่เป็นพักๆ เพราะเมื่อวันไหน Security เข้มงวด ก็จะโดนถอดออก แล้วก็ต้องไปไล่ขอใหม่อยู่เรื่อยๆ

ผมอยู่กับอะไรแบบนี้ ซึ่งเครื่องที่ใช้ทำงานมันก็ช้าลงช้าลง ในขณะที่งานมันมากขึ้น แล้วด้วยความเป็นคนทำงานเร็วมาก เมื่อต้องรอมันก็เริ่มเครียด ผมเครียดจนเส้นเลือดฝอยในตาแตก รักษาอยู่หลายปี สุดท้ายก็หายแหล่ะ เพียงแต่มันทิ้งรอยแผลไว้ที่จอประสาทตาไปเสียแล้ว คุณหมอก็เพียรบอกว่า อย่าไปเครียดให้มากเลย โรคนี้มันเกิดจากความเครียดเท่านั้นแหล่ะ

เอาล่ะครับ เล่ามาซะยาว เพื่อจะเข้าเรื่องว่า อะไรอะไรที่มันทำให้เราต้องยาก มันสร้างความเครียดให้คน และมันจะทำให้เราหนีจากมันถ้าเราทำได้ ผมยกตัวอย่างง่ายๆเลย เช่น ถ้าในบริษัทมี messaging app ให้พนักงานใช้คุยกันได้ แต่บังคับว่าจะต้องคุยงานเท่านั้น และตั้ง security ขึ้นสุดกั้นไว้ก่อน ถ้าอยากได้อะไรนอกเหนือจากที่ให้ ก็ให้มาขอ

ตรงนี้แหล่ะครับ มันเริ่มยาก เพราะไอ้ที่ให้มาตอนเริ่มต้น มันเพียงพอต่อการใช้คุยงานแบบปกติเลย พอเราอยากจะคุยกับคนที่มาจาก บริษัทอื่นล่ะ เช่น outsource ที่เราจ้างมา หรือ vendor หรือแม้แต่บริษัทในเครือ แต่คนละ domain ล่ะ มันจะทำไม่ได้แล้ว แล้วทางแก้ทำไง

ก็ถ้าเอาทางที่ถูกก็ทำหนังสือขอไป แล้วก็ตามกันเป็นวันเป็นสัปดาห์บางทีเป็นเดือนกว่าจะได้ ต้องไปเสียแรง อธิบายแล้วอธิบายเล่า จนได้มา หรือบางทีก็อาจจะไม่ได้ด้วย

ทางที่ไม่ถูกทำไง ก็สร้าง group line สิครับ แล้วก็ไปคุยกันในนั้น ทีนี้ก็ไม่ต้องสนละว่า sesitive information มันคืออะไร เราได้คุยงานกันแล้ว งานเสร็จแล้ว บรรลุเป้าหมาย สบายใจ

https://www.theguardian.com/cities/2018/oct/05/desire-paths-the-illicit-trails-that-defy-the-urban-planners

แล้วถ้าอยากทีห้องแชทเอาไว้ทำงานแบบ remote ล่ะใช้อะไรดี? เท่าที่เคยใช้มาแล้วได้ประสิทธิภาพดีก็พวก Welo, Gether และ Discord แต่ Wel,Gether มันแพง เราคงไม่ซื้อเอง เราก็อาจจะไปใช้ Discord แต่ทีนี้มันอาจจะไม่ปลอดภัย แต่ ก็ใช้อยู่ดี เพราะอะไรครับ ก็เพราะมันสะดวกไง มันง่าย งานเดิน

สุดท้ายแล้ว เรื่องนี้มันเป็นปัญหาที่ระดับล่างมากๆ มันคงจะล่างเกินไปจนผู้บริหารไม่ได้อยากทำความเข้าใจ แกจะส่ง secret key กันทางไหน ชั้นไม่รู้เรื่อง (มันคืออะไรก่อน) แกจะแชร์ user/password กัน ก็ทำไปสิ มันมีปัญหาอะไรเหรอ เดี๋ยวก่อน มันน่ากลัวไปทุกตรงเลย

แถมบางทีต่อท่อเอา log ไปใส่ discord ทำ production monitor กันเลยไหม เพราะอะไรถึงทำขนาดนั้น ก็เพราะ process ที่ถูกต้องมันยากกกกกไป๊ มันยากแบบไม่เหมาะสมเกินเบอร์ไปเยอะ จากที่คนคิดหวังว่าจะสร้าง security first ตอนนี้คือ อย่าให้บอก มันคืออีกด้านหนึ่งแบบสุดทางเลยด้วยซ้ำ

ยังไม่พอ ถ้า messaging app นั้น แม้แต่จะคุยกันเอง อยากสร้าง group คุยในประเด็นนั้นๆ ถ้าใน line มันทำได้ง่ายๆ แต่ถ้าของบริษัท มันจะมี process ผมก็บอกเลยว่าไป Line ชัวร์ แต่อย่ามางอแงว่า ทำไมไม่มาใช้ของบริษัทกัน ก็ทำให้มันใช้ง่ายๆสิครับ ถ้ามันยากเราก็ไปหาทางที่ง่าย แค่นั้นเอง

--

--